วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เสียงหัวเราะแสนหวาน

แด่ ความรู้สึกดีดี แด่ทุกความจริงใจและเสียงหัวเราะที่พบเจอ

วันนี้  รู้สึกว่าตัวเองมีความหมาย รู้สึกว่าตัวเองมีค่า
และรู้สึกว่า วันนี้ยิ้มให้กับตัวเองได้หลายรอบเหลือเกิน  เมื่อนึกถึงเสียงอบอุ่นของใครคนหนึ่ง

ได่ยินแค่ไม่กี่นาทีก็ขอบคุณมากแล้วจริงๆ

แม้กระทั่งดูละคร หน้าใครบางคนยังลอยขึ้นมา จับโทรศัพท์แน่นๆ แล้วก็ยิ้มกับมันอีกครั้ง 55555


ไม่รู้ว่า คือ ความรัก รึเปล่า  อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ
 แค่ความรู้สึกดีดี ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับฉัน  ฉันไม่เคยเจอคนที่รักษาคำพูด ไม่เคยมีใครมาสนใจกับสิ่งเล็กน้อยที่เราทำให้  พอมีใครสักคนใส่ใจในความห่วงใยของเราบ้าง  ฉันก็เลยดีใจ

 เขาไม่ต้องมารักฉันหรอก   ฉันรู้ดีว่า เวลาฉันมีน้อยอาจไม่เหมาะเป็นคนรักของใคร
แค่เขา รับความห่วงใยและดูแลตัวเองดีๆ   และเข้าใจในความห่วงใยที่ฉันมีให้เขา
แค่นี้ ฉันก็ มีความสุขนักหนาแล้ว  ได้ยิ้มให้เขาทุกวันทุกคืนแม้ว่า พวกเราจะไม่เห็นหน้ากัันเลย  ความห่างไกล การมีเวลาที่ไม่ตรงกัน มันไม่ใช่ปัญหาที่จะละเลยความรู้สึกต่อกันเลย

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทำเต็มที่แล้ว

กว่าจะผ่านไปแต่ละวัน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน มีเรื่องดีหรือไม่ดี
ก่อนนอนจะนึกถึง..นึกถึงสิ่งดีๆ ที่จะให้เราอมยิ้มได้
แล้วยิ้มให้ตัวเองก่อนข่มตาทุกครั้ง

แม้ไม่มีเสียงกระซิบข้างหูว่าฝันดี
แต่อย่างน้อยเราก็สามารถจินตนาการถึงสิ่งดีๆที่อาจไม่เคยเป็นไปได้

สูดหายใจลึกๆและภาวนาระลึกไว้เสมอ
ขอให้ตื่นลืมตาขึ้นมาเพื่อเห็นแสงตะวันใหม่อีกวันด้วยเถอะ

อย่างน้อยฉันยังเหลืออีกหนึ่งวันก่อนที่ตะวันจะลับฟ้าไปอีก
อย่างน้อยยังเหลือเวลาให้ฉันได้ทำสิ่งที่อยากทำ
อย่างน้อยยังพอมีเวลาให้ฉันได้คิดถึงคนที่ฉันอาจจะ"รัก"
และอย่างน้อย เสี้ยวเวลาที่เหลือก็สำคัญ
จนทำให้ฉันเล็งเห็นคุณค่ากับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว

จะไม่เสียดาย  หากวันพรุ่ง ลาลับโลกไป
จงยินดีกับการคืนสู่ดิน แม้ว่าจะทำใจยาก แต่นั่นคือสัจธรรม



แค่ทำให้เต็มที่ในทุกๆขณะจิต  รู้สึกให้สุดหัวใจ  ไม่เสียเวลามากกับการเสียใจ  หยุดแก้ไขกับสิ่งที่ไม่สมบูรณ์..

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ปีกศรัทธาของหัวใจ


กว่าจะหาเหตุผล  กว่าจะรู้  ว่าเพราะอะไร ถึงได้โหดร้ายกับฉันนัก สรรหาคำพูดที่ทิ่มแทงความรู้สึกจนเกือบจะกลายเป็นคนเกลียดกัน

.. ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วกัน อย่างน้อยก็รู้สาเหตุ  แม้ว่าจะไม่มีหนทางที่จะดับต้นตอนั้นได้เลยเพราะมันคงฝังรากลึกจนกลายเป็นความเชื่อไปแล้ว  

ไม่เป็นไรนะ ฉันจะไม่พยายามแก้ตัวแก้ต่างอีกแล้ว   หยิกเล็บเจ็บเนื้อเปล่าๆ  ก็แค่ความเข้าใจผิดที่คิดกันฝ่ายเดียว   ฉันจะไม่ทำร้ายหัวใจของฉันเด็ดขาด  สิ่งที่เศร้าที่สุดและทุกข์ที่สุด คือการได้รู้ความจริงว่า "ความคิด ของเรา  มันผิด!!" ถ้าใครบางคนรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารับรู้มา  เป็นแค่เรื่องโกหกไม่มีการพิสูจน์แค่วัดจากความน่าเชื่อถือของคนให้เท่านั้น  เขาจะเป็นยังไงนะ.. เขาอาจแค่รู้สึกเฉยๆ อาจจะแย่  หรืออาจจะว่างเปล่าไปเลย  ถ้าเกิดแค่นี้ก็ดีไป  แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ ความระลึกถึงสิ่งที่ผ่านมาอาจฆ่าความภาคภูมิใจกับอดีตที่เคยกระทำ  แล้วผลจะเป็นเช่นไร  

ฉันรู้ดี ความทรนงในศักดิ์ศรีของคนเราสำคัญมากนัก  ถ้าต้องโดนทำลายด้วยการกระทำของตนเอง  อาจจะเป็นสิ่งที่แย่เกินเยียวยา
ฉัน..ถูกกระทำไปแล้ว  แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว    ช่างมันเถอะ  ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว   สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ ปล่อยไป และ สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือ  เข้าใจเขาให้มากที่สุด พอแล้ว  เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเราก็ได้   ถ้าเขาไม่ดี เราคงไม่รักเขาหรอก  จริงไหม  เขาคือคนดี  

ไม่มีเรื่องอะไรให้ค้างคาใจแล้ว รู้เหตุและผลแล้ว  คราวนี้ก็มาถึงทีของหัวใจตัวเราเองบ้าง  หนักแน่นเข้มแข็งเข้าไว้ ท่องไว้  และจงเตรียมพร้อมกับมรสุมที่จะเกิดขึ้นทุกขณะ  จงทนมันให้ได้  มันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ็บไม่นานหรอก  

หลับฝันดีนะจ๊ะ ปีกแห่งศรัทธาที่เข้มแข็งของฉัน  ฉันศรัทธาหัวใจตัวเอง จึงต้องศรัทธาคนที่ฉันรักด้วย  เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า โอกาสที่ได้เจอกันอีก โอกาสที่จะมอบสิ่งดีๆให้แก่กัน

ฝันดีจ๊ะที่รัก..ปีกแห่งสายลมของฉัน

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

น้ำตายังชื้นๆ สุขแค่เสี้ยววิ ในคืนX'Mas


อรุณสวัสดิ์ราตรีที่สับสน   ความสุขปนน้ำตาให้คิดถึง
เผลอลืมตัวท่องไว้ว่าใจคน   มันลึกลับสับสนเกินคาดเดา
สุขเพราะเขาเศร้าเพราะเขายังไม่เข็ด  ทุกข์ไม่สะเด็ดเหลือรอยความเศร้าหมอง
ยังไหวไหมถ้าคิดถึงคนเย็นชา   ถูกเขาด่าเขาชังยังไหวเหรอ

ใกล้จะหยุดหรือยังความคิดถึง   เขาไม่รับ ส่งไม่ถึง พูดคนละภาษา
เจ็บไม่จำพอรึยังทุกข์นานา จะเลิกห่วงหาคนเย็นชาได้รึยัง
คราบน้ำตายังเหลือรอยเตือนสติ ยิ้มแก้มปริไม่ถึงหนึ่งแสนวิ
โลกความจริงพังลงเพียงเสี้ยววิ รอยขยี้ความทรงจำติดก้นดิน

อนิจจาความจริงไม่เสแสร้ง ถูกระแวงมองว่าแสร้งกลับไฉน
ยิ่งตั้งใจยิ่งสบประมาทความเข้าใจ เขาไม่เคยมองเราว่ามีดี
สมใจไหมหัวใจแหลกสลาย วิ่งทำไมตามทำไม โลกสับสน
คุ้มกันไหมกับสิ่งที่เขามอง ความว่างเปล่าสร้างละครซ่อนกลใจ

เจ็บพอรียังพอรึยังตอบใจดังๆ ไร้ประโยชน์มอบจริงใจเขาไม่รู้สึก
ยังจะรักเดินหน้าต่อไหวไหม ถอยมาเถิดถอยออกมาความเสียใจ
อย่าเสียดายอย่าโกรธเขาแค่ใจเรา เขาแค่เหยียบแค่เมินความทรงจำ
เราแค่เก็บมาปัดฝุ่นอย่าสิ้นหวัง ใจของเราใจที่รักเป็นของเรา
ความรู้สึกของเรา ไม่เป็นไร เหลือแค่ไหน ใจรักเขา เก็บรักษาเอง


วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

1วันกับความคิดถึง

พรุ่งนี้เอาไงดีหนอชีวิตเรา คิดถึงเขา อยากไปหาเขา เขาจะอยากให้เราไปหารึเปล่าก็ไม่รู้อีก มันมากเกินงามไปป่าวเนี่ย งานก็เยอะจนล้นมือยังจะมีช่องว่างให้คิดถึงกันได้สิน่า แล้วจะยังไงดีล่ะ ไม่รู้ตอนนี้เขาอยู่ไหน อยู่กับใครก็ไม่รู้ ไม่กล้าถามกลัวคำตอบ คุยกันก็ไม่เห็นว่าเขาจะถามถึงจะพูดถึง

การคิดถึงและอยากเจอ มันทรมานแบบนี้เองเหรอ ไม่น่าเลยนะ เก็บใส่ลิ้นชักไปเหมือนเดิมดีกว่าไหม ๑ปีที่ผ่านแค่คิดถึงก็สุขใจไม่ดิ้นรนไม่ทรมานมากขนาดนี้ ใครจะไปรู้ว่าโชคชะตาจะพาให้เจอกันอีก ควรต้องทำตัวให้ยุ่งมากกว่านี้ เก็บเขาไว้เป็นแค่ความคิดถึงในใจเหมือนเดิมดีกว่า อย่าได้รู้สึกไปมากกว่านี้เลย เรามันไม่มีสิทธิ!

วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ลาก่อนปีเก่า สวัสดีปีใหม่ ใหม่


"ขอบคุณ" สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2012

ไม่ว่ามันจะ.. "ดีหรือร้าย" .. "ยากเย็นหรือง่ายดาย"

แต่สุดท้ายมันคงจะกลายมาเป็น..บทเรียนที่สอนให้เราเข้มเเข็งขึ้นในปีหน้า!!

ไม่รู้ว่าเหนื่อยไหม กับปีที่ผ่านมา แต่รู้ว่าสาหัสน่าดู
ทั้งสภาพร่างกายทั้งสภาพจิตใจ ประคองชีวิตมาแบบทุลักทุเล

เป็นปีแห่งการตัดสินใจที่ผิดพลาดหลายอย่าง  จะนึกเสียใจก็ไม่ทันแล้ว ดันยินดีกับสิ่งที่ทำ
เป็นปีที่ต้องอยู่คนเดียว ต้องหัดอยู่คนเดียว  ใช้ชีวิตคนเดียวเพียงลำพัง
เป็นปีที่กินอาหารฝีมือแม่นับครั้งได้  คิดถึงแม่มาก  แต่คงด้วยความดื้อรั้นและอวดดี จึงต้องเป็นแบบนี้
เป็นปีที่ต้องพบเจอผู้ชายเลวๆ  ที่บั่นทอนความรู้สึกไปมากมาย 
เป็นปีที่เจอเพื่อนใกล้ตัวแย่ๆ จนอยากจะเอาน้ำตามาล้างความเฮงซวยนี้ออกไปเสียจริง

แต่ ปีนี้ ก็ยังมีดีอยู่มากมาย  ในความแย่จนต้องหันหลังชนกำแพง 
ฉันเรียนรู้ว่า  มีใครอีกมากมายบนโลกนี้  ที่เป็นห่วงฉันอย่างจริงใจ
พวกเขาไม่เคยหวังอะไร จากฉัน  พวกเขาไม่ได้พรากอะไรจากฉันไปเลย
พวกเขามีแต่ให้  และดูแลฉันเสมอมา  เป็นทุกอย่างในเวลาที่ฉันท้อแท้
แม้่ตัวฉันจะไม่ค่อยยินดีรับนัก ด้วยหัวใจไม่เปิดรับความหวังดีจากใคร
ต่ ด้วยความดีเหล่านั้นจากพวกเขา มันซึมแทรกไปสู่หัวใจฉันเมื่อไหร่ไม่รู้
รอยยิ้ม  มิตรภาพต่างวัย  ที่พวกเขามีให้ เข้าไปอยู่เต็มความรู้สึก ช่วยปลุกความหวังที่ไม่เคยมี ให้เริ่มมีใบอ่อน รอวันแข็งแรง  ตอนนี้เหลือเพียงแค่ ฉันต้องดูแลความหวังนั้นให้เป็นจริง

ขอบคุณพี่ๆสตรีวิทย์ค่ะ  

ด้วยการกระทำและพฤติกรรมที่ฉันคอยเรียนรู้ ช่วยสอนให้ฉันรู้ว่า 

"โลกยังมีรอยยิ้มให้กับคนแปลกหน้าเสมอ"      

ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่าความคิดเราเอง  สิน


เป็นปีที่ฉันต้องตเสียที   

อย่างน้อย..ฉันก็รู้ว่า  วันนี้ฉันยังมีลมหายใจ ให้มีแรงประคองต่อไปวันๆ

ลาก่อนปีเก่า  เจอกันปีใหม่   
ฉันจะไม่เป็นคนใหม่  ฉันยังเป็นคนเดิม
แต่ฉันจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากว่า
จะใช้ชีวิตใหม่ๆ ที่พระเจ้ามอบให้
ที่พลังใจของฉันเรียกร้องให้เข้มแข็ง
ตราบใดที่ยังมีโอกาส ได้เรียนรู้ในโลกกว้าง
ตราบนั้นฉันยังไม่หยุดหายใจ  ต้องเดินฝ่าไปให้เห็นเส้นทางเพื่อก้าวเดินไปให้ได้...  

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไดอารี่ปิดท้ายปี ๒๕๕๕


ไดอารี่ปิดท้ายปี ๒๕๕๕

ลาก่อนวันสิ้นโลกจอมปลอม
ปีหน้าฟ้าใหม่ตั้งใจทำอะไรดี

ขี้เกียจย้อนกลับไปคิด ตั้งแต่ต้นปีทำอะไรไปบ้าง
รู้แต่ว่าเหนื่อยมากมาย เหนื่อยใจ และเหนื่อยกาย เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นในทุกคน

ที่ผ่านและพลาดไปแล้ว ถือเป็นบทเรียนให้หัวใจแข็งแรง
ที่ทำดีได้ดี ถือเป็นรางวัลแสนเหนื่อยแห่งการพากเพียร

ปีหน้าทำอะไรดี คิดไว้เยอะไป ก็ทำไม่เสร็จ
จุดมุ่งหมายและความพยายามไม่มากพอถ้าคิดไว้เยอะ
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คิดน้อยๆ จะได้มีประสิทธิภาพ

๑ ปีมี ๑๒ เดือน  ความพยามทั้ง๑๒ข้อ จงสำเร็จด้วยมือเรา!

๑. ไม่เปิดคอมฯแช่ไว้ หากไม่ใช้งาน (ทำได้ไหมเนี่ย) ท่องไว้ๆช่วยชาติประหยัดพลังงาน
ที่สำคัญคือ "ประหยัดเงินในกระเป๋าเรา"

๒. หัดนอนปิดไฟตอนกลางคืนให้ได้  หัดไว้ๆ  เพื่อสตางค์ในกระเป๋า

๓. ปิดต้นฉบับ ๓ เล่ม  ไม่เน้นคุณภาพ ขอจำนวนเพื่อความผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน

๔. หัดกินข้าวเย็นคนเดียวให้ได้ทุกวัน  เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นนะตัวเรา

๕. เขียนไดอารี่ทุกสัปดาห์  เขียนทุกวันไม่ได้ก็ต้องเขียนให้ได้ทุกอาทิตย์  จะได้รู้ว่าผ่านมาทำอะไรมาบ้าง  เป็นการเยียวยาความจำในสมองของตัวเรา

๖. ออกกำลังกาย ให้ได้ ๓วันต่อสัปดาห์ เพื่อยืดเวลาการหายใจให้แข็งแรงมากขึ้น

๗. สวดมนต์ให้ได้ทุกวันพระ  ห้ามลืมๆๆ  ต้องปฎิบัติให้ได้

๘. ดูหนัง ๑ เรื่องต่อเดือน  ห่างหายต่อโลกมายาไปเยอะ กลับเข้าชมสีสันบ้าง ชีวิตจะได้สดใส

๙. เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ ทุกเดือน  จัดไป จัดเอง  หัดขับรถ  หัดนั่งรถไฟ   หัดนั่งรถทัวร์

๑๐. ต่อจิ๊กซอว์ให้ได้ ๑๒ แบบ

๑๑. อ่านหนังสือให้ได้ ๑๒ เล่ม

๑๒. ท่องเว็บไซต์ ๓ ชม.ต่อวัน

(พิมพ์ออกมาแปะหน้ากระจกเลย   ทำให้จงได้ ความพยายามอยู่ที่ตัวเรา)


สัปดาห์สุดท้ายแห่งปีล่ะ ยิ้มรับลมหนาวกันดีกว่า
ชาวกรุงเทพ จะได้หนาวบ้างไหมเนี่ย


วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ฅนธรรมดี



แค่คุณลงมือทำ   ความดีมองไม่เห็น   แต่สัมผัสได้ด้วยใจ

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำความดีกันนะค่ะ
จับมือกันไว้และก้าวไปด้วยกัน... กลุ่มฅนธรรมดี





เชิญชวนเพื่อนๆร่วมทำบุญด้วยกัน  รับไม่จำกัด ตั้งใจจะทำตลอดทั้งปี
ปีหน้า ๒๕๕๖ ฉันจะตระเวนปันความรักให้น้องๆผู้ด้อยโอกาสตามโครงงานต่างๆ

ช่วยๆกันนะค่ะ ใครสนใจก็เชิญเลย  น้องๆรออยู่มากมาย
อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน สื่อการสอน
อุปกรณ์การกีฬา
ทุนในการจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน
อื่นๆ

**ที่อยากได้จริงๆ และเป็นจำนวนมาก ได้แก่
ดินสอ  ยางลบ  กบเหลาดินสอ  สมุด   สีและสมุดวาดเขียน

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คุ้มค่าทุกวินาทีที่หายใจ



ทุกวันนี้ ฉัน พยายาม ใช้ชีวิต ให้คุ้มค่าทุกวินาที 
ท่องอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทุกสิ่งที่ทำเต็มไปด้วยความจริงใจและความปรารถนาอันแรงกล้า ไม่ใช่สักแต่จะทำเท่านั้น ฉันท่องในใจว่า.....

"จงใช้ชีวิตราวกับว่า คุณจะตายในวันพรุ่งนี้"


คุณลองดูสิ แล้วจะยิ้มกับการกระทำของตัวเอง บางการกระทำเหลือเชื่อจนนึกไม่ถึง ว่าตัวเรานั้นจะทำได้ ลองฝันให้ไกลๆ นึกถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แล้วลงมือทำให้สุดกำลังเต็มความสามารถ ไม่มีอะไรไกลไปกว่า 

"การให้กำลังใจตัวเอง"

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สุขเล็กเมื่อนึกถึงเพื่อน



รู้สึกตื้นตันอ่ะ ดีใจและสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
ได้ข่าวของเพื่อนคนหนึ่ง  กำลังจะแต่งงาน

ฉันพยายามหาเพื่อนคนนี้มาสักพักหนึ่งซึ่งก็เพิ่งหาเจอเมื่อไม่นานมานี้เอง

วันนี้เป็นอีกวันที่ดีใจกับเพื่อนคนนี้ เจอกันอีกทีก็เห็นเพื่อนมีความสุขเป็นฝั่งเป็นฝาล่ะ


ภาพโยนไม้กลองงานกีฬาสี ม.๖ สมัยเรียนได้หวนกลับมาให้ยิ้มอีกครั้ง
ถ้าไม่มีเหตุการณ์วันนั้น ฉันคงไม่จดจำเพื่อนคนนี้ได้ชัดเจน

ด้วยทิฐิของเด็กวัยรุ่นตอนนั้นคำว่า"ขอโทษ"ไม่เคยหลุดปากฉันเลย
เก็บความรู้สึกผิด และคำขอโทษมาหลายปี
ใกล้ล่ะๆ ใกล้จะได้พูดต่อหน้าเพื่อนคนนี้แล้ว
อยากจะขอโทษแกนะเพื่อน