วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

บ่นถึง Cancer



ครุ่นคิดอยู่เกือบค่อนวัน พยายามจะยื้อเวลาชีวิตของตัวเองไว้ให้ได้นานที่สุด แต่ก็แอบกลัวจะทำไม่ได้
ด้วยแรงกระตุ้นจากสหายที่รักหลายคน ทำให้ใจหนึ่งอยากบอกทางบ้านเหลือหลาย
อยากบอกมามิ๊ ให้รับรู้  แต่ก็ยังมีความกังวลอีกมากมาย คนแก่ที่มีลูกสาวใช้ชีวิตคนเดียวอยู่นอกบ้านจะทุกข์แค่ไหนกัน
หากรู้ว่าลูกเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย ใครจะไปก่อนกัน

ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนพี่ทหารคนนึงที่รู้จักเสียชีวิตด้วยโรคนี้  สองเดือนที่แล้วเจ้าCancerก็พาลุงที่รักของฉันจากไปอีก
สองเดือนให้หลังในวันที่คนที่ฉันรักเดินจากไปโดยไม่มีความเมตตา เหลือแต่ร่องรอยความเจ็บปวดที่ต้องเก็บไว้คนเดียว
ทั้งที่อยากได้กำลังใจจากเขามากมาย และอยากได้จากเขาเท่านั้น  ในยามที่หันไม่เห็นใคร อยากจะเห็นเขาอยู่เคียงกัน
แค่ยืนข้างๆกัน  แค่ยืนแบบไร้ความรู้สึกก็ได้ แต่...ไม่มี ถูกปฏิเสธยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อน
เม้มปากกัดฟัน ล้างหน้าด้วยน้ำตาไม่เว้นวัน  ไม่ใช่เจ็บสาหัสด้วยโรคแต่สาหัสด้วยอาการทางใจ
ไม่นานนัก เจ้าCancerก็แพร่กระจายอย่างไม่ปราณี มันคงรู้ว่าฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่
ในวันที่สาหัสวันหนึ่ง ยอมหน้าด้านอีกสักครั้ง เอ่ยปากขอ "กำลังใจ" จากคน(ที่ฉัน)รัก  แต่..ไม่มี ไม่ได้ ไม่ให้
คำพูดตบหน้าที่ด้านของฉันให้อายและสมเพทตัวเองสิ้นดี ถ้าก้มลงกราบได้ ไม่แน่นะ! ฉันอาจจะทำ

เห็นคนรอบข้าง  ต้องมาทุกข์ทนกับพฤติกรรมแย่ๆของฉัน
ซึ่งตอนนี้ ฉันก็ยังไม่ฟื้น อาจดูเหมือนปากดี แต่ในใจเป็นศูนย์ไปนานแล้ว

มาค่ำคืนนี้ เพื่อนคนนึงเป็นดั่งพี่ ดั่งแม่ ดั่งญาติ ต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับฉัน
ฉันรู้ว่ามันไม่ยากเลย กับการได้รู้ว่าคนในครอบครัว คนที่รักถูกเจ้าCancerคุกคามชีวิต

ทำไมเจ้าโรคนี้มันใกล้ตัวจัง
จะไม่ไหวอยู่แล้ว
ทุกวันนี้จะไม่ขอรับรู้ Cancerที่อยู่ในร่างกายฉันแล้ว
ฉันจะเอาเวลาทั้งหมด มอบให้แก่คนที่เขาต้องการ
ยังมีคนมากมายที่อยากได้กำลังใจจากฉัน
แม้ฉันจะไม่มีพละกำลัง แต่  ฉันยังมี "รอยยิ้ม"  ให้พวกเขา...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น